วันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2551

ระบบสารสนเทศทรัพยากรมนุษย์






กำเนิด HRIS
ปี ๑๙๗๐ (พ.ศ.๒๕๑๓) ในประเทศอังกฤษ จากการที่องค์การเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แต่สารสนเทศด้านกำลังคนไม่พร้อมที่จะสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น เป็นผลให้เกิดการสับสน ไร้ประสิทธิภาพ และซ้ำซ้อน ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์จึงต้องการวิธีใด ๆ ในการติดตาม (tracking) สารสนเทศ ความต้องการนี้ก่อให้เกิดการค้นหาระบบอัตโนมัติขึ้นมา
ต้นปี ๑๙๗๐ ในสหรัฐอเมริกา การใช้สารสนเทศในงานทรัพยากรมนุษย์ได้เกิดขึ้นพร้อมกับกฎระเบียบทางราชการที่เพิ่มขึ้น เช่น โครงการโอกาสในการจ้างงานที่เท่าเทียมกัน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะทำทันกำหนดเวลาในการรายงานโดยใช้ระบบเก็บบันทึกด้วยมือ และระบบจ่ายเงินเดือนก็ไม่มีข้อมูลที่จำเป็น นักพัฒนาซอฟท์แวร์ระบบเงินเดือนบางคนได้ลองใส่ข้อมูลพนักงานเข้าในระบบเงินเดือน แต่ผลก็ยังไม่เพียงพอ นอกจากนี้ระบบเหล่านี้ยังไม่สามารถจัดการข้อมูลจำนวนมากที่เกี่ยวกับการพัฒนาการบริหาร บัญชีรายการทักษะ หรือการบริหารกำไร (The Hunter Report, 1989)
ผู้พัฒนาซอฟท์แวร์ HRIS แรก ๆ ไม่ได้รวมงานกิจกรรมทรัพยากรมนุษย์เข้ากับงานเงินเดือน จึงเกิดการปฏิบัติที่แตกต่างกันสองระบบ นอกจากนี้ระบบ HR ยังต้องมีการปรับปรุงอีกมากเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละองค์การ ซึ่งการปรับปรุงนี้ใช้ต้นทุนสูงและเวลามากสำหรับผู้พัฒนาที่จะปรับปรุงซอฟท์แวร์ของตนสำหรับลูกค้าทุก ๆ ราย (The Hunter Report, 1989)
ต้นปี ๑๙๘๐ (พ.ศ.๒๕๒๓) ได้มี Software packages ออกมาโดยให้ผู้ซื้อสามารถปรับปรุงได้เท่าที่จำเป็นได้เอง นอกจากนี้ ได้มีระบบที่มีราคาถูกกว่าออกมาซึ่งถือเป็นการคุ้มราคาสำหรับบริษัทที่มีพนักงานน้อยกว่า ๒,๐๐๐ - ๓,๐๐๐ คน การพัฒนาระบบล่าสุดเป็นการดำเนินการเพื่อการบริหารแผนค่าตอบแทนและกำไรและเพิ่มความสามารถในการรายงานของระบบ ซึ่งยังคงมีปัญหาสองประการคือการขาดผู้ที่มีความรู้ในเรื่องนี้และเวลาในการใช้ระบบที่ยาวนาน โดยมักจะใช้เวลาสองสามปีจากวันเริ่มต้นจนถึงใช้เต็มระบบทำให้ไม่น่าสนใจ (The Hunter Report, 1989)
แม้จะมีอุปสรรค แต่การใช้ HRIS ก็ยังขยายตัว ในปี ๑๙๘๒ (พ.ศ.๒๕๒๕) ๔๐% ขององค์การที่สำรวจโดยสถาบันศึกษากำลังคน (Institute of Manpower Studies) มีการใช้ HRIS ปี ๑๙๙๑ (พ.ศ.๒๕๓๔) การสำรวจลักษณะเดียวกันแสดงว่า ๙๖% ขององค์การใช้ HRIS โดยหนึ่งในสามขององค์การเหล่านี้มีพนักงานมากกว่า ๑๒,๐๐๐ คน จากความรับผิดชอบของงานทรัพยากรมนุษย์ที่เพิ่ม
ขึ้นและจำนวนข้อมูลพนักงาน ทำให้ต้องมีวิธีการติดตามข้อมูลและทำการตัดสินใจมีความสำคัญขึ้น

วันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

จุลินทรีย์โพรไบโอติก : การเลือกใหม่ในอุตสาหกรรมอาหาร





จุลินทรีย์ เป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่เกิดคู่กับมนุษย์มาช้านาน ซึ่งโดยขนาดแล้วไม่สามารถที่จะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าโดยจุลินทรีย์นั้นสามารถ แบ่งได้ออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ จุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์และเป็นโทษต่อร่างกาย สำหรับจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ (จุลินทรีย์โพรไบโอติค) นั้นได้อาศัยอยู่ในร่างกายตรงส่วนของลำไส้เล็กของมนุษย์ ซึ่งจุลินทรีย์เหล่านี้เอง ที่เป็นที่มาของการพัฒนาและค้นคว้า Research and Development (R&D) ของบรรดาผู้ประกอบการ และนักวิทยาศาสตร์ในสายอาหารต่างๆ อันนำไปสู่การคิดค้นผลิตภัณฑ์อาหารใหม่ๆ ในท้องตลาด
ในการขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ นั้นผู้ประกอบการ จำเป็นต้องมีการศึกษาถึงความต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุดในทุกๆ มิติเท่าที่จะทำได้เพื่อให้มั่นใจว่า เมื่อผลิตออกมาแล้ว สินค้านั้นๆ จะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุดในทุกๆ มิติเท่าที่จะทำได้เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อผลิตออกมาแล้ว สินค้านั้นๆ จะสามารถตอบสนองความต้องการ ของผู้บริโภคอย่างแท้จริง และหากเราจับกระแสของรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพในปัจจุบันเราจะพบว่า ตลาดของผู้บริโภคได้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และส่งผลให้ภาวะการแข่งขันในการผลิตสินค้าอาหารเพื่อสุขภาพ นับวันเริ่มที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งกระแสดังกล่าวนอกจากจะศึกษาจากสถิติที่ในหลายๆ องค์กรรวบรวมขึ้นมาแล้ว หากเราสังเกตให้ดีๆ จะพบว่ามีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เกิดขึ้นมามากมายไม่ว่าจะเป็น ในรูปของอาหารสำเร็จรูป หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารซึ่งมีการจำหน่ายผ่านช่องทางทั้งแบบ Retailing sales หรือ direct sales ซึ่งมีผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยที่ประสบความสำเร็จทางการตลาด อย่างสูงในการผลิตสินค้าอาหารเพื่อสุขภาพ
จากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์อาหารพบว่า ในขณะนี้มีผู้บริโภค จำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารบางชนิดแบบคนปกติทั่วไปได้ เนื่องจากการแพ้สารอาหาร เช่น การรับประทานนม แล้วท้องเสีย ทั้งๆที่นมนั้นเป็นแหล่งที่อุดมด้วยสารอาหารและจุลินทรีย์สุขภาพต่างๆ มากมาย ดังนั้นจากจุดนี้เองได้มีการค้นคว้า วิจัยและพบว่าหากมีการประยุกต์ใช้จุลินทรีย์สุขภาพลงในอาหารเหลวชนิดอื่นแทนที่ผลิตภัณฑ์นม เช่น น้ำผลไม้ ผู้บริโภค ก็สามารถที่จะได้รับสารอาหารและได้รับคุณค่าทางโภชนาการอาหารได้โดยไม่เกิดอาการแพ้แต่อย่างใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้จุลินทรีย์ที่ดีแก่ผู้บริโภค
การประยุกต์ใช้จุลินทรีย์โพรไบโอติกในผลิตภัณฑ์อาหาร
การใช้จุลินทรีย์ที่ดี (โพรไบโอติค) เพื่อประโยชน์ทาง ด้านสุขภาพนั้น มีมานานกว่า 20 ปี แล้ว เนื่องจากเป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อมนุษย์โดยจะทำให้เกิดความสมดุล ของจุลินทรีย์ที่อยู่ในลำไส้ นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมระดับคอเรสเตอรอลในกระแสเลือด เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยการย่อยน้ำตาลแลคโตสในคนที่ไม่สามารถย่อยได้ และยังช่วยลดการเกิดมะเร็งอีกด้วย เพื่อที่จะให้ได้ประโยชน์สูงสุดนี้ ปริมาณจุลินทรีย์โพรไบโอติคในผลิตภัณฑ์อาหารควรมีอย่างน้อย 107 cfu ต่อกรัมหรือมิลลิลิตรของอาหาร
ในปัจจุบันนี้ อาหารที่มีจุลินทรีย์โพรไบโอติดส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มของนม และผลิตภัณฑ์นม เช่น โยเกิรต์ และผลิตภัณฑ์นมหมักอย่างไรก็ตาม มีผู้บริโภคบางกลุ่มที่ไม่สามารถบริโภคผลิตภัณฑ์นมได้ เนื่องจากผู้บริโภคอาจมีปัญหาในเรื่องของการย่อยน้ำตาลแลคโตสไม่ได้หรือไม่สามารถดื่มนมที่มีปริมาณคลอเรสเตอรอล ดังนั้นผลิตภัณฑ์ผลไม้ที่มีจุลินทรีย์โพรไบโอติค เช่น น้ำผลไม้ และผลไม้อบแห้ง จึงเป็นทางเลือกใหม่เพื่อสุขภาพของผู้บริโภค ที่ไม่สามารถบริโภคผลิตภัณฑ์นมได้ อีกทั้งผลไม้เองยังเป็นอาหารที่มีประโยชน์ อีกด้วยเนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน แร่ธาตุ และเส้นใยอาหารอยู่มาก นอกจากนี้ ผลไม้ยังไม่มีสารที่ก่อให้เกิดการแพ้เหมือนที่มีในนม

ผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้ทีมีจุลินทรีย์โพรไบโอติค
น้ำผลไม้นั้นเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในหมู่ผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย และในแต่ละปีปริมาณการผลิตได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งน้ำผลไม้ ถือได้ว่าเป็นตัวนำพาที่ดีของจุลินทรีย์โพรไบโอติค
จากการทดลองผลิตน้ำมะเขือเทศที่มีจุลินทรีย์โพรไบโอติคโดย ใช้กระบวนการที่เรียกว่า Probiotication Process ซึ่งเป็นกระบวน การที่ให้จุลินทรีย์โพรไบโอติคเจริญเติบโตในน้ำผลไม้ ที่อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 72 ชั่วโมง จะได้ผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณจุลินทรีย์สูงกว่า 10 6 เมื่อเก็บไว้ที่ 4 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 4 อาทิตย์ นอกจากนี้ได้ มีการศึกษาการปรับปรุงการมีชีวิตอยู่รอดของจุลินทรีย์โพรไบโอติค ในน้ำผลไม้ชนิดต่างๆ ด้วยวิธีการตรึงเซลไว้ในเม็ดอัลจิเนตที่เคลือบด้วยไคโตแซนที่ได้มีการทดสอบแล้วว่าสามารถช่วย ให้การมีชีวิตอยู่รอดของจุลินทรีย์โพรไบโอติคในโยเกริต์ได้ดี
ปัจจุบันนี้ น้ำผลไม้ที่มีจุลินทรีย์โพรไบโอติคนั้นมีอยู่ไม่มากนัก ยี่ห้อแรกที่ผลิตออกมาคือ Case Valio Gefilue ? ที่ผลิตโดยบริษัท Valio Ltd. ประเทศฟินแลนด์ ในปี 1977 อีกยี่ห้อหนึ่งก็คือ ProViav SHOT ! ที่ผลิตโดยบริษัท ProViva ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้การหมัก Oatmeal Gruel ที่มีน้ำผลไม้ผสมอยู่ ซึ่งมีรายงานว่าสามารถช่วยให้เด็กที่เป็นออทิสติคมีพัฒนาการที่ดีขึ้นได้ สำหรับประเทศไทยนั้น บริษัท ซี และ เอ โพรดักส์ จำกัด ได้ผลิตน้ำผลไม้ที่มีจุลินทรีย์โพรไบโอติคออกมาภายใต้ชื่อว่า Y-Za
ผลไม้อบแห้งที่มีจุลินทรีย์โพรไบโอติค
นอกจากน้ำผลไม้แล้วผู้ผลิตอาจประยุกต์ การใช้จุลินทรีย์ลงในการผลิตผลไม้อบแห้งได้เช่นกัน เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางของการจัดจำหน่ายและกลุ่มผู้บริโภค ซึ่งในการทดลองทางวิทยาศาสตร์จะใช้วิธีการแพร่กระจายภายใต้สุญญากาศ หรือที่เรียกว่ากันว่า Vacuum Impregnation ซึ่งก็คือ การประยุกต์ใช้แรงขับเคลื่อนในการแพร่กระจายน้ำจากเนื้อเยื่อไปสู่ที่ทีมีแรงดันออสโมซิสที่สูงกว่าของสารละลายไฮเปอร์โทนิค ( hypertonic solution ) ด้วยการใช้วิธีการแพร่กระจายภายใต้สุญญากาศ หรือที่เรียกกันว่า Vacuum Impregnation ซึ่งก็คือการประยุกต์ใช้แรงขับเคลื่อนในการแพร่กระจายของน้ำจากเนื้อเยื่อไปสู่ที่ที่มีแรงดันออสโมซิสที่สูงกว่าของสารละลายไฮเปอร์โทนิค ( hypertonic solution ) ด้วยการใช้ระบบสุญญากาศ การลดลงของความดันจะทำให้ปริมาณของก๊าซที่อยู่ในโครงสร้างของผลไม้ลดน้อยลง และเมื่อความดันกลับเข้าสู่ภาวะปกติ สารละลายออสโมซิสก็จะแพร่กระจายเข้าอยู่ในโครงสร้างเล่านี้ ทำให้การเคลื่อนย้ายมวลสารต่อพื้นที่ก็จะ เพิ่มมากขึ้นในที่สุดชิ้นผลไม้ก็จะมีปริมาณของแข็งเพิ่มขึ้น





การผลิตผลไม้อบแห้งด้วยกระบวนการแพร่กระจายภายใต้สุญญากาศ ประกอบไปด้วย 3 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่หนึ่ง หลังจากที่แช่ผลไม้ในสารละลายที่มีจุลินทรีย์โพรไบโอติคแล้วก็ดูดเอาอากาศออกทำ ให้ระบบเป็นสุญญากาศประมาณ 5-15 นาที เพื่อให้อากาศถูกดูดออกมาจากโครงสร้างของผลไม้ ในขณะที่อากาศถูกขับออกมา จากเซลล์สารละลายที่มีจุลินทรีย์โพรไบโอติคก็จะแพร่กระจายเข้าไปในช่องว่าง ขั้นตอนที่สอง คือ การทำให้ระบบกลับเข้าสู่สภาวะเดิม ที่ความดันบรรยากาศปกติ ในขั้นตอนนี้ความดันจะเพิ่มขึ้นทำให้ปริมาตรอากาศที่เหลืออยู่ในเซลล์ลดน้อยลง เป็นผลทำให้มีการเคลี่อนย้ายของของเหลวที่อยู่รอบๆ เข้าไปในโครงสร้างได้มากขึ้น นอกจากนี้ความดัน ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ขนาดของรูเล็กลง ซึ่งขึ้นอยู่กับความทนทานของโครงสร้างผลไม้นั้นๆ ขั้นตอนสุดท้าย คือ การนำไปอบแห้งจนได้ระบบความชื้นที่ต้องการ


ในช่วงแรกการทดลองโดยส่วนใหญ่จะทำ ในแอบเปิ้ล เนื่องจากเป็นผลไม้ที่มีโครงสร้างเป็นรูพรุน พบว่าหลังจากกระบวนการผลิตแล้ว ปริมาณของ จุลินทรีย์โพรไบโอติคจะมีอยู่สูงถึง 108 cfu ต่อกรัม อาหารและเมื่อเก็บผลิตภัณฑ์ไว้ที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 12 วัน ปริมาณจุลินทรีย์โพรไบโอติคลดลง 1 log ในวันที่หกของการเก็บรักษา นอกจากนี้ยังได้มีการทดลอง กับฝรั่ง และ Quince พบว่า ปริมาณจุลินทรีย์โพรไบโอติค หลังกระบวนการแปรรูปก็มีอยู่สูงเช่นกัน ซึ่งค่าที่ได้ก็สอดคล้องกับค่าเฉลี่ยที่พบในผลิตภัณฑ์นมหมัก
ดังนั้นในช่วงที่เรียกว่า ยุคแห่งการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพนี้ ผู้ประกอบการควรที่จะสร้างศักยภาพในการแข่งขันด้วยการสร้างมูลค่า เพิ่มลงในผลิตภัณฑ์ ของตนเองโดยการต่อยอดแนวความคิดไปสู่การแสวงหา และค้นพบสิ่งทีโดนใจผู้บริโภคมากที่สุด เพราะหากว่าน้ำขึ้น แล้วไม่รีบตักจะไปตักตอนที่ส่วนแบ่งการตลาดเต็มหมดแล้วย่อมไม่มีความหมายต่อความสำเร็จใดใดทางธุรกิจเลย

อาหารเช้ากับการเรียน


คนส่วนใหญ่นิยมกินอาหารวันละ 3 มื้อ แต่บางคนอาจจะกินเพียงวันละ 2 มื้อ หรือมากกว่านี้ ในคนที่กินอาหารเพียง 2 มื้อ มักจะงดเว้นมื้อเช้า ด้วยเหตุผลต่างๆกัน เช่น ต้องตื่นแต่เช้าเร่งรีบไปเรียนหรือทำงาน ใช้เวลาในการเดินทางนาน ไม่มีเวลาพอ สำหรับการเตรียมอาหารเช้า และบางคนงดกินอาหารเช้าด้วยเหตุผลที่ต้องการลด น้ำหนัก การงดรับประทานอาหารมื้อเช้า จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม อาจทำให้ร่างกายได้รับ พลังงานและสารอาหารไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย เนื่องจากกระเพาะ อาหารของคนเรามีขนาดความจุที่จำกัดสำหรับการกินอาหารแต่ละครั้งโดยเฉพาะ ในเด็กวัยเรียนซึ่งมีขนาดของกระเพาะอาหารเล็กกว่าผู้ใหญ่ ในขณะที่ความต้องการ พลังงานและสารอาหารต่อหน่วยน้ำหนักมากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากเป็นวัยที่ยังมีการ เจริญเติบโต จึงจำเป็นต้องกินอาหารอย่างน้อย 3 มื้อ โดยปกติคนเราจะพักผ่อนด้วยการนอนหลับวันละประมาณ 8-12 ชั่วโมง ในช่วง เวลานี้การใช้สารอาหารต่างๆ จะยังดำเนินไปตลอดเวลา ปริมาณสารอาหารต่างๆ โดยเฉพาะระดับน้ำตาลในเลือดจะลดลงหลังจากที่เราพักผ่อนนอนหลับ จึงจำเป็นต้อง กินอาหารเพื่อเพิ่มระดับสารอาหารในร่างกายให้อยู่ในสภาพปกติสำหรับการทำ กิจกรรมต่อไป การงดไม่กินอาหารเช้าในเด็กนักเรียน ระดับน้ำตาลในเลือดจะต่ำจึงพบว่า ในช่วงสายของวันเด็กจะรู้สึกหิว กระสับกระส่าย ไม่มีสมาธิในการเรียนขาดความฉับไว ในการคิดคำนวณหรือแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เกิดการผิดพลาดได้มากกว่า และผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนจะด้อยกว่าเด็กที่รับประทานอาหารเช้า ทั้งนี้เนื่องจาก สมองของคนเรา ต้องการน้ำตาลกลูโคสเพื่อไปหล่อเลี้ยง นอกจากนี้เด็กจะไม่มีกำลัง สำหรับการเล่นกีฬา หรือออกกำลังกายอีกด้วย อาหารเช้าจึงเป็นมื้อที่มีความสำคัญ ยิ่งสำหรับเด็กวัยเรียน และวัยรุ่น อาหารเช้าที่เหมาะสมควรประกอบด้วยอาหารที่มีโปรตีนสูงพอควรทั้งนี้เพื่อ คงสภาวะระดับน้ำตาลในเลือดของเด็กให้สูงอยู่เป็นเวลา ที่ยาวนาน จะทำให้เด็กมี ความสามารถในการเรียนรู้และประกอบกิจกรรม ที่ต้องใช้กำลังงานได้ดีขึ้น

วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ความหวังของเรา



ความหวัง เป็นเหมือนกำลังใจแต่มันก็จะไม่สมหวังเช่นกันถ้ามัวแต่หวังอยู่อย่างนั้นแต่ก็ใช่ว่า เมื่อก้าวเดินตามฝันหรือทำตามความหวังแล้วมันจะสำเร็จตามที่ใจต้องการเสมอไป สำหรับบางอย่างมันก็ต้องเผื่อใจไว้บ้างมันอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นมันอาจจะไม่เป็นอย่างนี้อย่างที่เราต้องการให้มันเป็นไม่ใช่ว่าเราไม่ดี แต่เป็นเพราะว่า เราดีไม่พอก็ไม่ใช่อีกแหละแท้จริงแล้วก็เป็นเพราะมันไม่เหมาะสมกับเราไม่ใช่เราไม่เหมาะสมกับมันบางสิ่งบางอย่างเมื่อเราเลือกที่จะเดินตามมันเพื่อไขว่คว้าหาก็ต้องทำให้เราพบกับความผิดหวังอยู่เรื่อย แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจบหรือหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างบางทีความมั่นใจหรือการตั้งความหวังไว้สูงมากก็อาจจะเป็นดาบที่ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเราเองได้เหมือนกันแม้บางครั้งต้องพบกับความผิดหวังจากสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็อย่าถึงกับร้องไห้เสียใจ กินไม่ได้นอนไม่หลับหรือทำร้ายตัวเองทางอ้อมเลย

เรื่องน่ารู้รอบตัว

1ไข่ขาวสามารถใช้รักษาแผลน้ำร้อนลวกได้ จริงหรือ
เฉลย
จริง โดยใช้ไข่ขาว มาทาที่น้ำร้อนลวกให้ทั่วทิ้งไว้จนแห้ง ไปเอง แล้วรอสักพักใหญ่ๆ จึงล้างออกจะไม่มีรอยแดง หรือพองเลย ข้อสำคัญ ก่อนทาไข่ขาวอย่าให้ถูกน้ำเย็นหรือของอื่นเลย และอย่าไปแกะ หรือเกาตอนที่ใกล้จะแห้ง เพราะจะทำให้หนังถลอก

2.ยาหม่องสามารถใช้ขจัดหมากฝรั่งเปื้อนผ้าได้ จริงหรือ
เฉลย จริง โดยการใช้ยาหม่องถูตรงยางเหนียวๆ ของหมากฝรั่งไปมา ไม่นานยางของหมากฝรั่งก็จะหลุดออกหมด แล้วจึงนำผ้าไปซักตามปกติ
3.ใส่หลอดในขวดซอสมะเขือเทศจะทำให้เทออกง่าย จริงหรือ
เฉลย จริง โดยการใส่หลอดลงไปให้ลึกถึงก้นขวด เพื่อให้อากาศสามารถแทรกผ่าน เข้าไปในขวดได้ แล้วเทซอสมะเขือเทศ ก็จะไหลออกมาง่ายขึ้น
4.ถุงน่องแช่น้ำเกลือช่วยให้ถุงน่องไม่ขาดง่าย จริงหรือ
ฉลย จริง โดยการนำเกลือ 2 ถ้วยผสมกับน้ำ 1 แกลอน แช่ถุงน่องใหม่ไว้นาน 3 ชั่วโมง แล้วล้างด้วยน้ำเย็น ยกถุงน่องขึ้น มาตากให้น้ำหยดจนแห้ง ก็จะทำให้ถุงน่องคงสภาพ และเหนียวทนนาน

5.มันฝรั่งกำจัดกลิ่นปลาร้าติดมือได้ จริงหรือ
เฉลย ไม่จริง แต่มันฝรั่งสามารถกำจัดกลิ่นหัวหอมติดมือได้ โดยการนำมันฝรั่งที่ปอกแล้ว มาถูมือที่มีกลิ่นหัวหอมติดอยู่ กลิ่นหัวหอมก็จะค่อยๆ จางหายไป

6.พริกแห้งใช้ไล่แมลงวันได้ จริงหรือ
ฉลย จริง เวลาตากของแห้งไว้ จะมีแมลงวันมาตอม ให้เอาพริกแห้ง 5 - 6 เม็ด เสียบไว้รอบกระด้ง ไอร้อนของพริก จะทำให้แมลงวันไม่กล้าเข้าใกล้
7.เบียร์ช่วยคลายเกลียวขึ้นสนิมได้
เฉลย จริง ให้รินเบียร์ลงไปบนเกลียวขึ้นสนิมนิดหน่อย รอ 2-3 นาที ความเป็นกรดของเบียร์ จะช่วยขจัดสิ่งสกปรก และเศษสนิม ทำให้เกลียวหมุนเปิดได้ง่ายขึ้น

8.เอาผ้าไหมแช่ช่องแข็งจะทำให้รีดง่าย จริงหรือ
เฉลย จริง การรีดผ้าไหม ควรใช้ไฟอ่อนๆ เพราะผ้าไหมจะไหม้เกลียม หรือเป็นสีเหลืองได้ง่าย แต่ถ้าผ้าไหมยับมาก ก่อนรีดควรฉีดพรมน้ำยาให้ทั่ว แล้วพับใส่ถุงพลาสติก นำไปแช่ในช่องแข็งของตู้เย็น ประมาณ 10 -15 นาที แล้วจึงนำออกมารีด จะทำให้รีดผ้าไหมได้ง่าย และเรียบยิ่งขึ้น

9.นำเหรียญสลึงใส่แจกันช่วยให้ดอกไม้ไม่เหี่ยวเฉาได้ จริงหรือ
เฉลย จริง โดยให้หย่อนเหรียญสลึงลงไปในแจกัน ส่วนผสมที่เป็นทองแดงในเหรียญ จะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุให้ดอกไม้เหี่ยวเฉา

10.ใบฝรั่งช่วยดูดกลิ่นได้ จริงหรือ
เฉลย จริง โดยให้นำใบฝรั่งมาตำให้ละเอียดคั้นเอาแต่น้ำ แยกกากใบออก น้ำมันหอมระเหยที่ได้ จะทำหน้าที่ดับกลิ่น ส่วนกากใบที่ได้ให้นำไปวางไว้ตามจุดต่างๆ เพื่อช่วยดูดกลิ่นได้

บทกลอน

บทกลอน
บทกลอนกลอน คือ ลักษณะคำประพันธ์ที่เรียบเรียงเข้าเป็นคณะ มีสัมผัสกันตามลักษณะบัญญัติเป็นชนิดๆแต่ไม่มีบังคับ เอก โท และ ครุ ลหุ และนี่ก็คือความหมายของ กลอน นะคะ กลอน ก็แบ่งเป็นหลายประเภท ตามความนึกคิดและอารมณ์ของผู้ที่คิดประพันธ์ กลอน ออกมา ก็ได้ นำ บทกลอน หลากหลายอารมณ์ มาฝากเพื่อนๆ ยังไงก็ลองเลือกอ่าน กลอน ได้ตามพอใจเลยนะค่ะ

..สตรีใด…….ไหนเล่า………..เท่าเธอนี้
เป็นผู้ที่ …………..ลูกทุกคน………บ่นรู้จัก
เป็นผู้ที่ ……...…...มีพระคุณ………การุณนัก
เป็นผู้ที่ …………..สร้างความรัก…..สอนความดี
เป็นผู้ที่…………...คอยสั่งสอน…....เอาใจใส่
คอยห่วงใย….……เราทุกคน……...จนวันนี้
เปรียบแสงทอง…...สว่างล้ำ……….นำชีวี
เธอคนนี้…………..คือ ” แม่ ”……..ของเราเอง
…...วันเกิดเราเป็นดั่งวันสิ้นลมแม่
....เจ็บปวดแท้ดั่งน้ำตาพาจะไหล
....สองมือออบโอบอุ้มแกว่งเปล
....น้ำนมเลี้ยงอุ้มชูให้เติบใหญ่มา
…แม่เปรียบดั่งยารักษายามป่วยไข้
....แม่เปรียบดั่งต้นไม้ใหญ่ร่มใบหนา
....แม่เปรียบดั่งดวงตะวันส่องแสงมา
…แม่เปรียบดั่งผ้าห่มหนาอบอุ่นกาย
…เปรียบดั่งพระในบ้านชี้แนะลูก
....สถิตย์ถูกอยู่กลางใจไม่ไปไหน
....กตัญญูตอนนี้ยังไม่สายไป
....ก่อนแม่ไซร้หลับตาไปไม่ลืมเอย